ความทุกข์ในชีวิตจริง ไม่อิงศาสนา มาจาก 14 เรื่องนี้

นี่คือ 14 เหตุผลที่ทำให้เราต้องทนทุกข์(หรือสร้างความทุกข์ขึ้นมา) และวิธีเปลี่ยนจากทุกข์เป็นการหลุดพ้น/เหนือทุกข์

ทุกคนมีความทุกข์ เป็นส่วนหนึ่งของสภาพมนุษย์ เราทุกข์เพราะความฉลาดของความเป็นมนุษย์มากกว่าที่จะมาจากปัจจัยภายนอก ใช่ครับเราทุกข์จากตัวเราเอง มาจากการรับรู้ การตีความสิ่งต่าง ๆ ของเราเอง

มนุษย์แทบทุกคนกลัวความทุกข์ โดยที่เขาลืมว่าเขาก็เหมือนเด็กที่กลัวเงาตนเอง

เรากลัวความทุกข์เพราะเราไม่รู้ ถ้าคุณรู้จักมันดีความทุกข์ทรมานอาจเป็นประตูสู่วิวัฒนาการส่วนบุคคล สู่การเติบโตและการขยายตัว หากคุณเลือกที่จะเปลี่ยนความคิดและการรับรู้เกี่ยวกับความทุกข์นั้นได้ครับ

ข่าวร้ายคือ: เราเป็นผู้สร้างความทุกข์ของเรา

ข่าวดีก็คือ : เมื่อเราเป็นผู้สร้างความทุกข์ของเรา เราก็สามารถดับมันได้

เราสามารถหยุดความทุกข์ของตัวเองได้ด้วยการทำความเข้าใจรากเหง้าของสิ่งที่ทำให้เราทุกข์แล้วลงมือทำ ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนบทสนทนาภายในของเราหรือการทำสิ่งต่าง ๆ ที่สำคัญถ้าเรารู้ว่าความทุกข์ก็มีประโยชน์ ก็สามารถบรรเทาความทุกข์นั้นได้เช่นกันครับ

ความทุกข์เกิดจาก 14 เรื่องดังต่อไปนี้ครับ

1. การต่อต้านความไม่เที่ยง คุณต้องการให้ทุกอย่างเหมือนเดิม คุณไม่ยอมรับว่าทุกอย่างเป็นเพียงชั่วคราว ชีวิตเคลื่อนที่เป็นวัฏจักรทำให้เกิดชีวิตใหม่และใช่ ความตาย และไม่มีอะไรจะหยุดการเคลื่อนไหวสากลนั้นได้ การยอมรับว่าทุกสิ่งที่มีอยู่เป็นเพียงชั่วคราวทำให้คุณสามารถปลดปล่อยความผูกพันกับสิ่งของ ผู้คน และแม้กระทั่งคำจำกัดความของตัวคุณเอง นี่คือวิธีที่คุณเรียนรู้และพัฒนาต่อไป

2. มองว่าตัวเองแยกจากคนอื่น เราเป็นสัตว์สังคม ไม่ได้เกิดจากกระบอกไม้ไผ่ แม้จะอยู่คนเดียว แต่การกระทำของคนอื่นก็จะหลงเข้ามาแทรกแซงความเป็นส่วนตัวของเราจนได้ ยิ่งต้องการความเป็นส่วนตัว ยิ่งไม่หยากให้ใครมายุ่ง(แต่ก็หนีไม่พ้น)ก็ยิ่งทุกข์

3. ความยึดมั่นในตัวฉันของฉัน เมื่อคุณเลือกระบุตัวตน อะไรก็ตามที่ท้าทายความรู้สึกมีคุณค่าของคุณจะกลายเป็น ภัยคุกคามหรือดูถูกหรือปริศนา คุณทนทุกข์เพราะมีคนแนะนำว่าคุณไม่ใช่คนหรือสิ่งที่คุณเชื่อว่าตัวเองเป็น

4. ต้องการให้สิ่งที่เป็นไปไม่ได้ กลายเป็นความเป็นจริง

5. ให้น้ำหนักเสียงวิจารณ์จากภายนอกแทนที่จะเชื่อมั่นตัวเอง

6. ใช้ชีวิตของไม่สอดคล้องกับสิ่งที่สำคัญสำหรับคุณและสิ่งที่คุณเชื่ออย่างแท้จริง 

7. Living from the outside in ใช้เวลาส่วนใหญ่ในชีวิตเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น และวิจารณ์ตัวเองว่า “ไม่เพียงพอ” อยู่เสมอ

8. การเลือกความกลัวมากกว่าความรัก คุณมีสองทางเลือกในการใช้ชีวิตของคุณ คุณสามารถเลือกความกลัวหรือความรัก ความกลัวทำให้เกิดความคิดที่ทำให้หัวใจ จิตใจ และร่างกายของเราหดตัว คุณจำกัดตัวเอง คุณปกป้องตัวเองจากชีวิต ไม่มีทางบรรลุสัมฤทธิผลและมีศักยภาพเมื่อคุณดำเนินชีวิตด้วยความกลัว คุณซ่อนตัวอยู่ตลอดเวลา เฉพาะเมื่อคุณเลือกที่จะใช้ชีวิตจากสถานที่แห่งความรักเท่านั้น คุณสามารถสร้างการมองโลกในแง่ดี ความกล้าหาญ และความเห็นอกเห็นใจ

9. แสวงหาความมั่นคงในโลกที่ไม่แน่นอนและคลุมเครือ ชีวิตเป็นแบบไดนามิกและเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาและคาดเดาไม่ได้ คุณต้องเรียนรู้ที่จะเต้นกับทุกสิ่งที่เข้ามาหาคุณ คุณจะทุกข์ทรมานเมื่อคุณแสวงหาภาพลวงตาของความปลอดภัยและความมั่นคง เพราะสิ่งที่คุณกำลังมองหาที่นั่นสามารถพบได้ภายในเท่านั้น การเชื่อมั่นในตัวเองและสิ่งที่คุณยืนหยัดเพื่อช่วงเวลานั้นเป็นหนทางเดียวที่จะนำพาตัวคุณไปสู่ความไร้เหตุผล

10. อยู่กับอดีตหรืออนาคต เสียใจทีหลัง – กลัว/ระแวง/หวั่นใจ คุณอาจจะสนุกกับความทรงจำของคุณมากขึ้นถ้าคุณไม่ยึดติดกับมันในตอนนี้เหมือนเมื่อก่อน คุณสามารถทะเยอทะยานไปสู่อนาคตได้หากคุณยอมรับว่ามีความเป็นไปได้ที่ไม่แน่นอน 

11. เล่นบทเหยื่อ ทุกครั้งที่คุณเล่นเป็นเหยื่อหรือคุณโทษใครซักคนหรืออย่างอื่น(หลงผิดคิดว่าเป็นเหยื่อแล้วรู้สึกเป็นคนสำคัญ) เท่ากับว่าคุณสละอำนาจในการใช้ชีวิตให้ดีที่สุดตามสถานการณ์ คุณพบว่าตัวเองไม่มีอำนาจหรือสิทธิ์เสรีตลอดชีวิต คุณสร้างความขุ่นเคือง ความกลัว และความโกรธที่บั่นทอนพลังงานของคุณและจำกัดศักยภาพของคุณ เมื่อคุณสร้างพลังให้ตัวเอง คุณใช้ปัญญาภายในเพื่อเลือกสิ่งที่จะช่วยคุณในการสร้างชีวิตที่กลมกลืนและไหลลื่น

12. โฟกัสที่ความสะดวกสบายแทนที่จะการเติบโต มนุษย์ไม่ชอบที่จะอึดอัด เมื่อคุณเลือกความสะดวกสบายมากกว่าการเติบโต คุณจะกลายเป็นนักโทษเพื่อความสบายใจของคุณ คุณถูกกำหนดให้เป็นอิสระ อิสรภาพมาจากสิ่งที่คุณเป็นได้และกล้าหาญพอที่จะใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ อุปสรรคที่ท้าทายเหล่านั้นจะกลายเป็นประตูสู่โอกาสเมื่อคุณมีส่วนร่วมแม้จะไม่สบายก็ตาม

13. แคร์คนอื่นมากกว่าตัวเอง

14. ปฏิเสธข้อบกพร่องของตัวเอง คุณมีเงาหรือความมืดในตัวคุณ ทุกคนทำ. มีสิ่งที่เราไม่ชอบเกี่ยวกับตัวเองอยู่เสมอ มักมีบาดแผลที่ต้องรักษาให้หาย เมื่อคุณวิ่งหนีจากเงามืด ส่วนนั้นในตัวคุณจะไม่สามารถคืนดี ให้อภัย และรักษาให้หายได้ พวกเขาจะหลอกหลอนคุณเสมอ รอคอยที่จะเกิดขึ้นเมื่อคุณคาดหวังน้อยที่สุดผ่านการก่อวินาศกรรม ความไม่เมตตาต่อผู้อื่น ความโกรธ และความสัมพันธ์ที่ไม่ดีต่อสุขภาพ การรับมือกับอารมณ์ที่ยากลำบากที่คุณรู้สึกหมายถึงการเห็นอกเห็นใจตัวเอง รักตัวเองอย่างที่คุณเป็น การหนีจากส่วนที่คุณปฏิเสธจะทำให้คุณต้องทนทุกข์ทรมาน การยอมรับและการให้อภัยทำให้เกิดความซาบซึ้ง การรักตนเอง และความเห็นอกเห็นใจต่อตนเองและผู้อื่น

นี่เป็นสาเหตุของความทุกข์หลัก ๆ ที่เป็นเรื่องจริงของความเป็นมนุษย์จริง ๆ ไม่จำเป็นต้องอิงคำสอนของพระศาสดาใด ๆ ขอให้คุณพยายามทำความเข้าใจให้ดี รับรองว่าคุณจะเข้าใจความจริง ที่มาของความทุกข์ได้มากขึ้น และความรู้นี้จะช่วยให้คุณมีความสุขมากขึ้นตามครับ

Published by

Zyo

Zyo เป็นนักเขียน บล็อกเกอร์ นักเทรด/นักลงทุน